จัฐสิพศ เลิศชัยประเสริฐ
สุดสัปดาห์ก่อน ได้มีโอกาสไปเยือนโรงแรมห้าดาว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ทุกอย่างถูกจัดสรรให้หรูหรา สมราคา ทั้งการตกแต่ง การบริการ และอาหารการกิน
บังเอิญโรงแรมแห่งนี้มีห้องอาหาร Outdoor ที่แขกสามารถนั่งติดขอบแม่น้ำได้อย่างใกล้ชิด
ชาวต่างชาติส่วนมากจึงขอเลือกซึมซับความสวยงามริมแม่น้ำสายหลักของกรุงเทพมหานคร
บรรยากาศ อาหาร เสียงเพลง ทุกอย่างเป็นไปอย่างเลิศหรูและงดงาม
ยกเว้นเพียงอย่างเดียว คือ เศษขยะ ที่ลอยเกลื่อนในแม่น้ำ มีทั้งเศษอาหาร ขวดน้ำ ถุงพลาสติก ฯลฯ
ทำเอาบรรยากาศ 5 ดาว ของสถานที่ดังกล่าว หม่นหมองลงไปอย่างมาก
ขยะเหล่านี้มักจะถูกกระแสน้ำ ซัดให้เข้ามาอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ
เพราะฉะนั้น วิธีที่จะค่อยๆเก็บขยะ วันละเล็กน้อย ค่อยๆทำความสะอาดแม่น้ำเบื้องต้น จึงไม่ใช่เรื่องยาก และไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณของหลวงด้วย
ในเขต กทม. ท่านผู้ว่าฯ คงจะเป็นกำลังหลักในการพบปะกับบรรดาผู้ประกอบการเอกชน สถานศึกษา วัดวาอาราม และหน่วยงานราชการ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ใช้ภูมิปัญญา เปลี่ยนตาข่ายจับปลา เอามาดักขยะแทน ยกขึ้นยกลง เก็บขยะขึ้นมาจากแม่น้ำตามเวลาเคารพธงชาติก็ได้
คาดการณ์คร่าวๆว่า คงใช้เงินไม่กี่พันบาท แลกกับภูมิทัศน์ที่สะอาดสะอ้าน งามตา และปรับโฉมหน้าให้กับ กทม. ที่สำคัญผู้ทำก็ได้รับประโยชน์ไปเต็มๆด้วย
แบบนี้คนส่วนใหญ่น่าจะเห็นด้วยนะ
นอกจาก กทม.จะเป็นเมืองสีเขียวแล้ว ถ้าจะเปลี่ยนให้ กทม. เป็นเมืองปลอดขยะได้ ก็จะยิ่งดี
เหมือนกับเมืองต่างๆของประเทศญี่ปุ่น แม่น้ำลำคลองทุกสายของเขา ใส สะอาด ปราศจากขยะ
เรื่องดีๆแบบนี้ มีตัวอย่างให้ดูได้ ไม่ต้องขอวีซ่า ทำไมเราไม่เลียนแบบเขาบ้างละครับ
กรุงเทพของเราได้ถูกพัฒนาไปมาก มีครบแทบทุกอย่าง ขาดอย่างเดียว คือ ความสะอาดเรียบร้อย
วิธีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคน กทม. ดูเพิ่มได้จากเรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่ตามลิงค์นี้ http://thailandtarget.blogspot.com/2016/05/39.html

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น