ทั้งๆที่หลายสิบปีที่ผ่านมา นายกฯแทบทุกสมัยเคยพยายามแก้ปัญหามาแล้ว แต่ยิ่งแก้ กลับยิ่งแย่
พ่อค้าขายรถ ก็อยากขาย อยากทำยอด แต่ถนนมันมีเท่าเดิม
รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาให้รถเลิกติด แต่ประชาชนก็อยากออกรถคันใหม่
วงจรปัญหามันวนเวียน วิธีการเดิมๆ แต่หวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง คงเป็นไปไม่ได้
รถไฟฟ้าสร้างมาแล้วหลายสาย แต่ถนนสายไหนที่มีรถไฟฟ้า รถก็ยังไม่เลิกติด
เพราะเมืองไทยไม่เหมือนเมืองนอก พฤติกรรมคนไทยไม่เหมือนต่างชาติ
1. ร้อนชื่น ฝนชุก ฝุ่นเยอะ
2. บ้านกระจายตัวอยู่ในซอยลึก
3. คนรวยไม่อยากนั่ง(รถสาธารณะ) คนจนไม่มีตังค์จะนั่ง
รถที่ติดกันมากอาจเป็นเพราะปัญหา เช่น
1. รถเมล์ แท็กซี่จอดกันขวักไขว่ริมถนน
2. ทางแยก ทางกลับรถ มีมากเกินพอดี
3. อาคาร ห้าง ตึกขนาดใหญ่ เป็นศูนย์รวมคนและที่จอดรถยนต์
รัฐคงไม่อาจมาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนในสังคมได้ แต่รัฐอาจแก้ปัญหาได้ ดังเช่น
1. เก็บภาษี พื้นที่จอดรถในห้างสรรพสินค้าและอาคารขนาดใหญ่ (เช่น จอดรถได้มากกว่า 50 หรือ 100 คันขึ้นไป) จะบรรเทาปัญหาได้หรือไม่ก็ตาม อย่างน้อยก็นำเงินส่วนนี้ไปสร้างขนส่งมวลชนให้แก่ส่วนรวมได้
2. ปิดทางแยกขนาดเล็ก และทางกลับรถที่มีมากเกินไป
3. กฏหมายควรบังคับให้อาคารขนาดใหญ่ เว้นพื้นที่ด้านหน้าอาคารเข้าไปมากเพียงพอที่จะให้รถเมล์ taxi และรถที่จอดรับส่งคน เบี่ยงเข้าไปได้ ทำให้รถในทาง(หลวง)หลักไม่ติด
เพื่อแก้ปัญหานี้ กฏหมายนี้ต้องใช้ ม.44 ให้มีผลย้อนหลังสำหรับทุกห้าง ทุกอาคารในเขต กทม. และจะรู้ได้ทันทีว่าอาคารไหนมีที่จอดรถกี่คัน
ถ้านึกภาพไม่ออกว่ามันจะดีขึ้นได้อย่างไร ลองนึกภาพหน้าห้างชื่อย่อC ห้างS ห้างE ห้างT ว่าปัจจุบันมันติดขนาดไหน
เงินลงทุนปรับปรุงส่วนนี้อาจยกเว้นภาษีหรืออะไรก็แล้วแต่ รัฐอาจเสียรายได้บ้างในระยะสั้น แต่คนส่วนมากน่าจะได้ประโยชน์ในระยะยาว
แต่ทุกคนคงเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้ทำไม่ง่าย เพราะเจ้าของตึกสูงระฟ้านั้นคงจะอยู่เหนือคนถืออำนาจในรัฐบาลไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ถึงเวลาแล้วที่ คสช.ต้องทำอะไรสักอย่าง ขอความร่วมมือให้ google map เปลี่ยนจากแดงเป็นเขียวสักที
โดย จัฐสิพศ เลิศชัยประเสริฐ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 'ปัญหาของคนกรุงเทพ'

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น