วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เกษียณก่อนเที่ยว หรือ เที่ยวก่อนเกษียณ


คนสมัยก่อนมักทำงานเก็บเงิน รอวันเกษียณแล้วค่อยคิดถึงเรื่องเดินทางท่องเที่ยว

เรียกว่า เก็บอย่างเดียว ไม่ค่อยได้ใช้

พอมาเจอเด็กสมัยใหม่ก็มักจะบอกว่า เด็กสมัยนี้ใช้เงินเก่ง ไม่รู้เก็บเงินเป็นหรือเปล่า

เรียกว่า ทำไปใช้ไป เห็นจะได้

คนที่มีอายุอยู่ระหว่าง 20-40 ปี หรือที่อยู่ในช่วง Gen Y ส่วนมากคงจะเป็นเช่นนั้น

เริ่มต้นปีใหม่ ต้องกางปฏิทินหาวันหยุดยาว วางแผนไปเที่ยว ไตรมาสละครั้ง หรือปีละครั้งสองครั้ง เพื่อเติมไฟให้ชีวิต

บางคนยึดเอาคติว่า "ตอนมีแรงให้รีบเที่ยว อย่ารอวันที่ทำได้เพียงลงไปเยี่ยว แล้วกลับมานั่งรอบนรถบัส"

แต่ความจริงแล้วที่คนสมัยใหม่เที่ยวบ่อย มันอาจมีเหตุผลอยู่ดังนี้

1. ค่าใช้จ่ายถูกลง แต่ความสะดวกเพิ่มขึ้น ถ้าเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวสมัยนี้น่าจะถูกกว่าสมัยก่อนมากพอสมควร 

- เริ่มตั้งแต่ตั๋วเครื่องบิน มีทั้ง Low Cost Airline หรือสายการบินเดิมที่แข่งกันลดราคา ทำโปรโมชั่นแย่งลูกค้ากันอย่างดุเดือด

- การพัฒนาขนส่งมวลชนของหลายๆประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้ง่ายขึ้น เชื่อมต่อจากสนามบินเข้าถึงใจกลางเมืองและสถานที่เที่ยวได้ ซึ่งในอนาคตคงจะสะวดกกว่านี้อีกหลายเท่าสำหรับหลายๆสถานที่

- โรงแรมที่พักที่มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งโรงแรมห้าดาว Hostel BoutiqueHotel หรือแม้แต่ Apartment ก็นำมาปล่อยเช่าให้นักท่องเที่ยวในราคาถูก

เรียกได้ว่าการแข่งขันเสรีในยุคทุนนิยม ทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์มากขึ้นทั้งในแง่ราคาและคุณภาพ ยังไม่รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศต่างๆ โดยไม่ต้องขอและเสียค่าธรรมเนียมวีซ่า

2. ช่องทางออนไลน์ เพิ่มความสะดวกให้วัยรุ่นสมัยนี้เข้าถึงข้อมูลต่างๆได้อย่างง่าย

- นอกจากจะมีสายการบินเพิ่มขึ้นแล้ว เว็บไซต์ของสายการบิน ก็พัฒนาให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาตั๋วเครื่องบินตามวันและเวลาที่ต้องการ สามารถจองและชำระเงินได้โดยไม่ต้องพูดคุยกับ call center และยังมีเว็บไซต์ที่ให้บริการค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกที่แข่งขันกันทำตลาด ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบราคาแต่ละสายการบินได้ทันทีผ่านแพลตฟอร์มแบบ One Stop Service

- การจองโรงแรมผ่านเว็บไซต์ค้นหาที่พัก Agoda หรือ Booking.com การจองผ่านแพลตฟอร์มนี้ (Online Travel Agency) นอกจากจะมีราคาถูกกว่าจองผ่านโรงแรมโดยตรงแล้ว ยังมีโค้ดส่วนลดที่แถมให้ผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า บริษัท Priceline เจ้าของเว็บไซต์ดังกล่าวจะมีรายได้มากกว่าโรงแรมระดับโลกหลายแห่ง ทั้งๆที่ไม่ได้มีโรงแรมเป็นของตัวเองเลยแม้แต่ห้องเดียว

- แม้แต่การจองรถ การซื้อประกันการเดินทางก็สามารถทำผ่านออนไลน์ได้ เลือกความคุ้มครอง ราคา และช่วงเวลาที่ต้องการได้ ทั้งหมดนี้สามารถชำระผ่านบัตรเครดิต ซึ่งนอกจากจะได้สะสมแต้มแล้ว ในบางกรณียังเลือกที่จะผ่อนชำระแบบ 0% เอาเงินในอนาคตมาใช้ล่วงหน้าได้อีกด้วย

เปรียบเทียบกับสมัยก่อนที่เราแทบไม่รู้เลยว่า ที่ไหนมีโรงแรมอะไรดีให้บริการ ห้องพักเป็นอย่างไร บริการดีไหม อยากจะโทรศัพท์ไปที่โรงแรมต้องโทรไปถามเบอร์ก่อน แล้วค่อยโทรเข้าโรงแรม อยากจองตั๋วเครื่องบินจะต้องติดต่อเอเย่นเจ้าไหนดี แค่โทรเช็คราคาก็เสียเวลาเป็นวันๆ เทียบกันไม่ได้เลยกับความสะดวกสบายที่ปลายนิ้ว ซึ่งช่วยทำให้คนสมัยนี้เข้าถึงข้อมูลเพื่อการตัดสินใจได้ง่ายและเร็วขึ้น

3. Social Media ซึ่งมีอิทธิพลมากที่สุดในการกระตุ้นความอยากของคน Gen Y

- สมัยนี้ใครไปเที่ยวที่ไหน ทำอะไรที่แสดงถึงคุณภาพชีวิตที่ดีก็มักจะโพสรูปลง facebook IG Line แสดงให้สังคมได้รู้ พอเพื่อนๆเห็นก็เกิดความรู้สึกอยากมี อยากได้ อยากไป ประกอบกับการเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น จึงเป็นพลังที่แอบผลักให้คนสมัยนี้ออกไปเปิดหูเปิดตาในโลกกว้าง เสร็จแล้วก็นำไปโพสลงโซเชี่ยลเป็นวงจรอยู่อย่างนั้น

- บริษัททัวร์เองก็ปรับตัวหันมาทำโฆษณาผ่านโซเชี่ยลมีเดีย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่กระตุ้นความอยากของผู้บริโภคได้ตรงจุด ด้วยราคาที่แสนถูก 'โปรไฟไหม้' แถมมีรถรับส่งถึงหน้าโรงแรม พร้อมไกด์นำเที่ยว ทำให้คนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องต่างประเทศ สามารถท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ

- นอกจากอิทธิพลโดยตรงจากเพื่อนฝูงแล้ว สมัยนี้ยังมีเทคนิคการทำโฆษณาหลากหลายรูปแบบ ทั้งรับจ้างรีวิวโดยเซเลบ ดารา คนมีชื่อเสียง การทำโฆษณาจากเว็บไซต์ผู้ให้บริการOTA การทำโฆษณาโดยตรงไปสู่กลุ่มคนที่มีความสนใจเหมือนๆกัน รวมไปถึงการทำโฆษณาที่ตามมาหลอกหลอนเราหรือเรียกว่า Remarketing



ในสมัยก่อนที่ไม่มีโซเชี่ยลมีเดีย ระบบอินเทอร์เน็ตยังไม่ทันสมัยเหมือนปัจจุบัน ก็คงมีคนที่ชอบเที่ยวและคนที่เที่ยวบ่อย แต่ไม่มีช่องทางสื่อสารให้คนอื่นรู้เป็นวงกว้างและรวดเร็วเท่าสมัยนี้

แต่ปัจจุบันที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว คนสมัยใหม่จึงสามารถรับรู้เรื่องราวจากภายนอกได้อย่างรวดเร็ว บางคนยังถือว่าการเดินทางไปดูโลกกว้างโดยพาคุณพ่อคุณแม่ไปด้วยเป็นการแสดงออกถึงความรักความกตัญญู เป็นการเพิ่มมุมมองในการใช้ชีวิต เพื่อเข้าใจธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่างๆได้ดีขึ้น

เพียงแต่บางครั้งเราก็ต้องไตร่ตรองด้วยว่า 'เหรียญมีสองด้านเสมอ' สิ่งที่คนอื่นโพสลงไปบนโซเชี่ยลนั้นมีเพียงด้านเดียว คือ ด้านที่อยากให้คนอื่นรู้ ซึ่งส่วนมากคือชีวิตที่ดูดีและหรูหรา แต่กว่าที่เขาจะไปถึงจุดๆนั้น เขาต้องผ่านความยากลำบากอะไรมาบ้าง เราอาจไม่รู้ เพราะเขาไม่ได้บอกให้โลกรู้ ไม่ได้แสดงให้โลกเห็น

ดังนั้น จะไปเที่ยวที่ไหน เที่ยวกับใคร เที่ยวเมื่อไร เที่ยวอย่างไร ควรจะต้องประมาณความสามารถและความพึงพอใจของตัวเราเองให้ดี เพราะทุกคนคงไม่ได้อยากไปเที่ยวครั้งเดียวแล้วไม่ได้ไปไหนอีกเลย 

จัฐสิพศ เลิศชัยประเสริฐ 07082018

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น