วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ประเทศไทย อยู่ตรงไหนบนแผนที่โลก

จัฐสิพศ เลิศชัยประเสริฐ

หลายปีที่ผ่านมาทีมนักกีฬาของไทยได้พัฒนาฝีมือขึ้นมามาก ทั้งทีมฟุตบอล วอลเล่ย์บอล แบดมินตัน และล่าสุดคือ กอล์ฟ พวกเขาได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ สร้างความสำราญให้กับคนไทย และสร้างเกียรติยศให้แก่ตัวพวกเขาเอง แต่ที่โด่งดังเป็นพิเศษคือทีมฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมีเจ้าของคือคุณวิชัย ที่เป็นคนไทย ถึงแม้จะไม่ได้เป็นนักกีฬาที่ลงแข่งขันเอง แต่การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบพลิกความคาดหมาย ไม่ใช่แต่เพียงสื่อมวลชนสำนักต่างๆ แต่พลิกความคาดหมายของคนทั้งโลกก็ว่าได้ ต้องยอมรับว่าคุณวิชัยและทีมงานมีส่วนสำคัญที่ได้จารึกชื่อของประเทศไทย ไว้ในใจของชาวต่างชาติได้อย่างมากมาย

มีการพูดทีเล่นทีจริงกันว่า ประเทศไทยได้หายไปจากแผนที่โลก ไดยเฉพาะในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เพราะคนไทยมัวแต่ตีกันเอง ซึ่งไม่จริง เพราะยังไงแผนที่โลกก็ต้องมีชื่อประเทศไทยอยู่บนนั้นวันยันค่ำ.. แต่หลายคนที่เคยใช้ชีวิตในประเทศตะวันตก จะทราบว่าประเทศเรา Thailand ไม่ได้อยู่ในความทรงจำของชาวโลกส่วนใหญ่ บางคนยังคิดว่าประเทศที่เป็นเกาะเล็กกว่าไทยประมาณ 15 เท่าตัว อย่าง Taiwan คือ Thailand หรือบางคนก็จะรู้จัก Thailand ในทางที่ไม่ค่อยดีนัก สิ่งเหล่านี้นับเป็นการเสียโอกาสทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องของประเทศไทยทั้งสิ้น

การพัฒนาด้านกีฬานับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ต้องสนับสนุนและสานต่อ เพื่อสร้างชื่อและภาพลักษณ์ในทางที่ดีให้กับประเทศ ถ้าจะลองเหลียวดูประเทศสำคัญๆในโลกนี้ล้วนมีจุดเด่นด้านกีฬาที่ทำให้โลกรู้จักเขาทั้งสิ้น เช่น ใครอยากเล่นกอล์ฟหรือเป็นนักบาสอาชีพ ต้องไปอเมริกา,  ใครอยากเตะฟุตบอล ต้องไปยุโรป อังกฤษ อิตาลี เยอรมัน เสปน ฝรั่งเศส,  ใครอยากเป็นนักฮอกกี้ ต้องไปแคนาดา,  คนเก่งๆจะเล่นรักบี้ ต้องไปออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เป็นต้น ส่วนถ้ามาเมืองไทยจะต้องเล่นอะไร??? ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจนัก เราไม่ได้บอกว่าเราเป็นประเภทจับฉ่าย แต่เราคงต้องยอมรับความจริงว่า เรายังล้าหลังด้านการพัฒนากว่าประเทศเหล่านี้หลายสิบปี

ความสามารถในการพัฒนาเกมกีฬาให้เป็นจุดเด่นของประเทศเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ต้องศึกษา ซึ่งในประเทศไทยก็น่าจะมีคนเก่งมีความสามารถที่จะพัฒนาสิ่งเหล่านี้อยู่ไม่น้อย ถ้าหากทำสำเร็จ มุ่งโฟกัสไปที่กีฬาประเภทใดประเภทหนึ่งเป็นพิเศษ(ที่มีความเป็นสากลนิยม) ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายหนึ่งของนักกีฬาอาชีพนั้นๆ จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนจากในและต่างประเทศได้อย่างมหาศาล ทั้งค่าสปอนเซอร์ ค่าตัวนักกีฬา ค่าตั๋ว ค่าจ้างงาน ค่าลิขสิทธิ์ เม็ดเงินโฆษณา รายได้จากการท่องเที่ยว ค่าภาษีที่ต้องจ่ายให้กับรัฐ การค้าขายของที่เกี่ยวข้อง และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกมากมาย

จากการศึกษาค้นคว้าของ (Professor of Sport Business Strategy, Coventry University 2014) ชี้ให้เห็นว่ารายได้ภาษีที่รัฐจัดเก็บได้จากฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อยู่ที่ประมาณ 1,300 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทย 65,000 ล้านบาทโดยประมาณ เงินจำนวนนี้ต่อปี สามารถสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้กับประชาชนได้จำนวนไม่น้อยทีเดียว

การกีฬาจะเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่สามารถสร้างโอกาสการพัฒนาเศรษฐกิจให้กับประเทศ Nelson Mandela ผู้นำของแอฟริกาใต้ที่ถูกจำคุกนานกว่า 20 ปี แต่หลังออกจากคุก 3 ปี เขาก็ได้รับรางวัลNobelสาขาสันติภาพ และขึ้นเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกในปี1994 (BBC, 2013) ต่อสู้เพื่อให้ประเทศของเขาได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกตั้งแต่ปี 2006 แต่กว่าจะได้รับเลือกต้องรอไปจนถึงปี 2010 ณ เวลานั้น เขาได้ทำให้ทุกสายตาบนโลกจับจ้องไปที่ประเทศแอฟริกาใต้ และจะต้องมีอีกกี่พันกี่หมื่นชีวิต มีผู้ติดตามทีมฟุตบอลอีกหลายสิบประเทศ นับเป็นจำนวนเท่าไรที่จะได้เข้าไปใช้จ่ายเงินตราให้กับพี่น้องประชาชนในประเทศของเขา

Nelson Mandela ผู้ยิ่งใหญ่ที่จากโลกไปแล้ว ได้ใช้การกีฬาเป็นการเยียวยาความแตกแยกของคนในชาติ ใช้กีฬาในการสร้างความหวังและเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ของคนต่างสีผิว ซึ่งเขาเคยกล่าวไว้ว่า  
"Sport has the power to change the world…it has the power to inspire. It has the power to
unite people in a way that little else does. It speaks to youth in a language they understand. 
Sport can create hope where once there was only despair. 
It is more powerful than government in breaking down racial barriers."

กีฬาของคนไทยคงไมได้มีดีแค่ต้านยาเสพติด กีฬาสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ กีฬาสร้างความหวังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของคนในชาติได้  ในอนาคตถ้าเราสามารถทำให้ทุกสายตาของชาวโลกจ้องมองมาที่ประเทศไทย แล้วเราสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เขารับรู้รับทราบ ให้ชื่อของประเทศไทยได้เข้าไปอยู่ในใจของเขา ในแง่ธุรกิจแล้ว เมื่อลูกค้าต้องการรู้ว่าสินค้าชิ้นนี้ผลิตจากที่ไหน ประเทศใด เราหวังว่าเขาคงจะไม่ปฏิเสธ แต่พร้อมอ้าแขนรับสินค้าที่ตีตราคำว่า Made in Thailand



1 ความคิดเห็น: