เน้นไปที่ 4 พรรคเด่น คือ พปชร. อคม. พท. ปชป.
หลายคนอาจเข้าใจว่าถ้าพปชร. ชนะเลือกตั้ง จะยุติความขัดแย้งที่ผ่านมากว่า 10 ปีได้ เพราะ พปชร.วางตัวเป็นกลาง ไม่เป็นคู่ขัดแย้งและไม่ประสงค์จะขัดแย้งกับใคร
ดูไปดูมาชักจะไม่แน่ ทุกพรรคโดยเฉพาะซีก พท. และ อคม. มักโจมตีเรื่องการสืบทอดอำนาจเผด็จการ กติกาที่เอาเปรียบ และอาจเลยเถิดไปถึงการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรม เพราะฉะนั้น หากพปชร.ชนะ อาจถูกกล่าวหาได้ว่า ใช้อำนาจโดยทุจริต ซึ่งอาจนำไปสู่การไม่ยอมรับและการประท้วงเหมือนในอดีต
อคม. ตามกระแสได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่และในโซเชี่ยลมีเดียค่อนข้างมาก ผู้นำพรรคเอาจริงเอาจัง มีความพยายามท้าทายโครงสร้างอำนาจเดิม มีความสุดโต่ง คำก็ชนชั้นปกครอง คำก็อภิสิทธิ์ชน คำก็ทุนผูกขาด ท่าทีคล้ายคำปราศรัยของแกนนำนปช. ดูแนวโน้มแล้วมีโอกาสสร้างความขัดแย้งระลอกใหม่ ซึ่งอาจจะรุนแรงกว่าเก่า
พท. แม้จะได้รับความนิยมมากที่สุดตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่หลังจากการรัฐประหารปี 49 เป้าหมายสุดท้ายของการเป็นรัฐบาลของพท. คือ การคืนทรัพย์สินและนิรโทษกรรมสุดซอยให้อดีตนายกทักษิณ ซึ่งได้พิสูจน์มาเกิน 10 ปีแล้วว่า นอกจากจะทำไม่ได้แล้ว ยังจะนำไปสู่ความวุ่นวาย มีแนวโน้มว่าหากพท.ชนะเลือกตั้ง ก็ต้องหาหนทางทำสิ่งเดิมในรูปแบบที่ต่างไปอีก
ปชป. ที่เคยถูกมองว่าเป็นคู่ขัดแย้งกับพท.มาตลอด เพราะเป็นฝ่ายค้านในสภาและไม่ยอมรับการนิรโทษกรรมแกนนำที่ทำผิด แต่ในการเลือกตั้งคราวนี้ต่างมีจุดร่วมเดียวกับพท. คือคิดว่าถูกพปชร.เอาเปรียบบ้าง กติกาไม่เป็นธรรมบ้าง หากปชป.ชนะเลือกตั้ง น่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุดว่าจะไม่นำบ้านเมืองกลับสู่วงจรแห่งความขัดแย้ง ถ้าที่สุดแล้วไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและไม่มีการทุจริตคอรัปชั่น
คนอยากเลือกตั้งอดทนรอคอยมา 5 ปี ประเทศไทยต้องไม่เดินซ้ำรอยเดิม เราจะไม่ไปเลือกโดยใช้เพียงอคติหรือความชอบส่วนตัว แต่เลือกโดยคิดถึงผลประโยชน์และอนาคตของประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น