วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560

สถิตในใจไทยนิรันดร์

ไม่ร้องขอให้ใครอาลัยรัก
ไม่รู้จักคำว่าเบื่อหรือเหนื่อยล้า
ไม่อีโก้ไม่สิ้นเปลืองไม่หรูหรา
ไม่เคยลาจากราษฎร์ชาติบ้านเมือง

ธ ทรงเป็นแบบอย่างไทยทั่วหล้า
ธ ทรงมาโปรดชาวไทยและไพร่ฟ้า
ธ ทรงทำ ธ เมตตา ธ ธรรมา
ธ ปรีชา ธ อัจฉริยา โดยแท้จริง

มีใครไหมสร้างเม็ดฝนหล่นจากฟ้า
เทวดาธรรมชาติจึงสามารถ
มีใครไหมทำงานหนักอย่างองอาจ
ประชาราษฏร์จึงมีสุขอย่างพอเพียง

จะมีใครนิพนธ์เพลงได้ไพเราะ
เพลงสมเหมาะคนแต่งให้มากมายหนา
จะมีใครพร้อมน้อมกราบทุกครั้งครา
เพราะปัญญาใช้ทำงานเพื่อแผ่นดิน

นับจากวันที่คนไทยต้องสูญเสีย
ใจอ่อนเปรี้ยเพลียแรงไร้ความหวัง
หยดน้ำตาไหลออกมาในภวังค์
เปรียบได้ดั่งพ่อแผ่นดินลาจากไป

ถึงอย่างไรคนไทยไม่เสียศูนย์
ความอาดูรมีได้ไม่หนักหนา
พ่อคงหวังให้พวกเราช่วยพึ่งพา
ปวงประชาสามัคคีเพื่อชาติไทย

26 ต.ค. 2560
ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์
จัฐสิพศ เลิศชัยประเสริฐ

วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2560

My King and the billionaires

พระราชากับมหาเศรษฐี


ถ้าพูดถึง Bill Gates เจ้าของโปรแกรม Microsoft มหาเศรษฐีเบอร์ 1 คงมีไม่กี่คนบนโลกที่ไม่รู้จักเขา

มหาเศรษฐีท่านนี้เคยกล่าวว่า 'ให้คนขี้เกียจทำงานยากๆ เพราะเขาจะหาทางง่ายๆเพื่อทำงานนั้นให้สำเร็จ'

พระราชาเคยสอนว่า เราไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ แต่ต้องส่งเสริมให้คนดีปกครองบ้านเมือง และป้องกันไม่ให้คนไม่ดีมีอำนาจ ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้

กิจการมุ่งหมายผลประโยชน์บริษัท ส่วนราชการมุ่งมั่นประโยชน์สุขส่วนรวม

ทั้ง 2 ประโยค คือคนละเรื่องเดียวกัน ระหว่างพระราชากับมหาเศรษฐี


ถ้าพูดถึง Warren Buffet นักลงทุน มหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก คงมีไม่กี่คนบนโลกนี้ที่ไม่รู้จักเขา
มหาเศรษฐีท่านนี้เคยกล่าวว่า 'อย่าวัดความลึกของแม่น้ำด้วยเท้าทั้ง 2 ข้าง'

พระราชาเคยสอนว่า 'เกษตรทฤษฎีใหม่' ให้ทำแบบผสมผสาน จัดสรรหลายอย่างในที่ดินหนึ่งผืน มิใช่ปลูกพืชชนิดใดชนิดหนึ่งอย่างเดียว

การลงทุนในธุรกิจมีความเสี่ยง เฉกเช่นเดียวกับการประกอบอาชีพของราษฎร ต้องมีภูมิคุ้มกันจากความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ทั้ง 2 ประโยค คือคนละเรื่องเดียวกัน ระหว่างพระราชากับมหาเศรษฐี


ถ้าพูดถึง Steve Jobs มหาเศรษฐีแอปเปิ้ล ผู้ประดิษฐ์ iphone ipad คงมีไม่กี่คนบนโลกที่ไม่รู้จักเขา
มหาเศรษฐีท่านนี้เคยกล่าวไว้ว่า 'จงกระหายที่จะเรียนรู้พัฒนาตน เสมือนหนึ่งคนโง่ตลอดเวลา'

พระราชาเคยสอนว่า ให้ใฝ่รู้กับสิ่งที่ไม่รู้ ให้ปรับปรุงตัวด้วยความเพียรตลอดเวลา และกระหายในการทำดี แม้จะไม่มีใครรู้เห็นแต่ก็จำเป็นต้องทำ แม้มันจะยากและเห็นผลช้าแต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่แล้ว ความชั่วซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่โดยไม่ทันรู้สึกตัว

ไม่ว่าเราคือใครก็ตาม ความใฝ่รู้คือคุณสมบัติของผู้สำเร็จ แต่ชัยชนะแบบเบ็จเสร็จต้องใช้ความรู้และความดีเคียงคู่กัน

ทั้ง 2 ประโยค คือคนละเรื่องเดียวกัน ระหว่างพระราชากับมหาเศรษฐี


กลับมาที่ บิล เกตส์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ครั้งหนึ่งเคยกล่าวว่า 'เขาเข้าใจถ้าคุณมีความต้องการเงินนับล้านเหรียญ แต่เมื่อคุณได้มันมาแล้ว เขาจะบอกว่าส่วนเกินจากนั้นมันก็เหมือนเดิม ไม่น่าตื่นเต้นอีกต่อไป'

ด้วยเหตุผลนี้เราจึงเห็นบิล เกตส์ สละทรัพย์เพื่อการกุศล ซึ่งไม่ได้ทำให้เขามีน้อยลง ตรงกันข้ามเขากลับร่ำรวยทั้งเงินทองและจิตใจอย่างยาวนาน

พระราชาเคยสอนว่า ให้รู้จักพอประมาณ ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 'Sufficiency Economy' ซึ่งจะก่อให้เกิดความสุขแก่ตนเองและครอบครัวอย่างยั่งยืน

และยังสอดคล้องกับอมตะวาจาของ มหาตมะ คานธี ที่กล่าวไว้อย่างลึกซึ้งว่า 'โลกใบนี้มีทรัพยากรเพียงพอต่อความจำเป็นของทุกคน หาใช่ความละโมภไม่'

ทั้ง 3 ประโยค กลายเป็นคนละเรื่องเดียวกัน ระหว่างพระราชา มหาเศรษฐี และมหาตมะ คานธี นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ชาวอินเดียที่โลกจารึกไว้

เพียงแต่บางสิ่งที่อาจแตกต่างกันนั้นมีอยู่ 2 ประการ คือ 

1.มหาเศรษฐีเหล่านั้นแสวงหากำไรเป็นผลตอบแทนจากประโยชน์ที่เขาสร้าง 

แต่พระราชา มุ่งสร้างประโยชน์โดยผลตอบแทนนั้น เป็นเพียงความสุขที่จะได้รับจากการทำงานเพื่อผู้อื่น

2.มหาเศรษฐีเหล่านั้น หากเหนื่อยอาจพัก หากท้ออาจถอย เพราะเดิมพันเป็นผลกำไรขาดทุน ซึ่งมีผลต่อองค์กร ต่อผู้ถือหุ้น ต่อพนักงานของเขาเอง

แต่พระราชาจะท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันนั้นสูงเหลือเกิน คือบ้านเมือง คือความสุขของคนทั้งประเทศ

ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์
จัฐสิพศ เลิศชัยประเสริฐ

วันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ทำไมคนไทย รักในหลวง


หนึ่งปีผ่านไป จากวันที่สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่
หนึ่งปีผ่านไป จากวันที่หัวใจไทยแตกสลาย
หนึ่งปีผ่านไป จากวันที่ประเทศไทย ไม่มีในหลวง...

คนที่ไม่ได้เกิดเป็นคนไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 คงอดสงสัยไม่ได้...ว่าทำไมคนไทย ถึงรักในหลวง

บ้างอาจบอกว่า เพราะเด็กๆจะถูกผู้ใหญ่ปลูกฝัง ให้ไหว้ ให้รักในหลวง

บ้างก็บอกว่า เพราะคนในสังคมเขาทำกัน ทั้งที่โรงเรียน ทั้งที่ทำงาน เราก็เลยคล้อยตามเขาไป

บ้างก็บอกว่า เพราะเขาให้เราดูข่าวพระราชสำนักทุกวัน ซึ่งจะฉายพร้อมกันทุกช่อง (ในสมัยก่อนที่มีแต่ฟรีทีวี) ในเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ซึ่งในทางการตลาดถือว่าเป็นช่วงเวลาไพรม์ไทม์ (prime time) คือเป็นช่วงเวลาที่จะมีคนเปิดทีวีดูมากที่สุดของแต่ละวัน เมื่อดูข่าวในหลวงมากเข้าๆ ก็กลายเป็นความคุ้นเคยที่ขาดไม่ได้

แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา สำหรับผมและใครอีกหลายคน มันไม่ใช่เลย..

ไม่เคยมีใครสอนให้ผมแสดงความเคารพ กราบไหว้ในหลวง
หลายคนคงไม่ใช่คนที่เลือกทำอะไรเพียงเพราะ... คนอื่นเขาทำกัน
และต้องสารภาพว่า ผมไม่เคยดูข่าวตอน 2 ทุ่มเลย 

ทั้งๆที่ไม่เคยมีใครบอกให้เราต้องไหว้ในหลวง แต่ผมกลับเห็นคนจำนวนมากพร้อมน้อมกราบแนบฝ่าพระบาท ผมเข้าใจว่าคนไทยแสดงความเคารพให้กับความดี และแสดงความภักดีต่อการเสียสละเพื่อส่วนรวม

ทั้งๆที่ไม่เคยดูข่าวราชสำนัก แต่ผมคิดว่าถ้าในหลวงไม่เสด็จไปทรงงานจริงๆแล้ว จะมีภาพจากไหนที่นำมาฉายได้วันแล้ววันเล่า โดยเฉพาะภาพจากถิ่นทุระกันดารที่ประจักษ์ต่อสายตาคนไทยทุกคน ซึ่งทั้งหมดนี้มันมากมายจนสามารถจัดเป็นนิทรรศการให้ลูกหลานได้เรียนรู้ศึกษาไม่มีวันหมด

ทั้งๆที่สามารถเลือกใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบายดั่งพระราชา แต่หากเหลียวมองผ่านรั้วเข้าไปในพระราชวังจิตรลดา ภาพที่เห็นกลับเป็นโรงเรือนทดลอง อุปกรณ์สิ่งของสาธิต เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้กับราษฎรสิริรวม 4,685 โครงการ

บนโลกใบนี้จะมีอีกสักคนไหม.. ที่ทำงานด้วยปัญญาและหัวใจ เพื่อคนอื่นได้มากมายขนาดนี้

สำหรับผม ปราศจากความสงสัยเลยว่า ทำไมในหลวงถึงเป็นที่รัก..ของคนไทยทั้งชาติ

เพราะในหลวงคิดถึงคนอื่น มากกว่าคิดถึงตัวเอง
เพราะในหลวงรักราษฎรและประเทศชาติ
เพราะในหลวงเป็นตัวแทนของความดี
เพราะในหลวงเป็นแบบฉบับของความกตัญญู
เพราะในหลวงเหนื่อยล้ามามาก ลำบากเพื่อเราคนไทยทุกๆคน

ถ้าจะใช้คำให้เข้ากับยุคสมัย คือ ในหลวงเป็นแบบอย่างของคำว่า 'ยิ่งให้ ยิ่งได้' โดยแท้จริง

ถ้าในหลวงไม่ใช่ผู้ให้ ไม่ใช่ผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่แล้ว คนไทยคงไม่ได้เห็นวิธีคิด วิธีปฏิบัติของในหลวง ดังเช่นประโยคนี้

"ข้าพเจ้าเสียเวลายื่นปริญญาบัตรให้บัณฑิตคนละ 6-7 วินาที แต่ผู้ได้รับนั้นมีความสุขเป็นปีๆและตลอดไป เปรียบกันไม่ได้เลย... และที่สำคัญไปกว่านั้น ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีนั้นสำคัญมาก เพราะบางคนไม่มีโอกาสศึกษาในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก อีกแล้ว... ข้าพเจ้าจะขอพระราชทานปริญญาบัตรให้แก่ บัณฑิตปริญญาตรี ไปจนกว่าจะไม่มีแรง"

แม้วันนี้ภาพในอดีตจะตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเราอย่างไรก็ตาม...

แต่จริยวัตรอันงดงามตามฐานคติ 'ประหยัด เรียบง่าย ได้ประโยชน์สูงสุด'ของในหลวง จะไม่มีให้รุ่นเราได้เชิดชู ไม่มีให้รุ่นลูกได้เรียนรู้ ไม่มีให้รุ่นหลานได้น้อมรับอีกต่อไปแล้ว ไม่มีอีกแล้วจริงๆ

ธ สถิตในดวงใจนิรันดร
จัฐสิพศ เลิศชัยประเสริฐ