วันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2560

แท็กซี่ไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก


เขาว่ากันว่า 2 อาชีพที่ถูกประชาชนก่นด่ามากกว่าชื่นชม นอกจากตำรวจแล้ว ก็ยังมีคนขับแท็กซี่นี่แหละ

ในยุคที่การแข่งขันสูง ผู้ให้บริการเร่งพัฒนาคุณภาพการบริการ แถมอัดโปรโมชั่นลดราคาให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจ

ก็เห็นมีแต่แท็กซี่ไทยนี่แหละ ที่จะขอคิดเงินเพิ่ม 50 บ. โดยไม่ได้แสดงให้เห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆก่อนเลย ที่จะทำให้ลูกค้าเต็มใจจ่ายเพิ่ม

ทั้งๆที่เวลาต้นทุนเพิ่ม เขาก็ปรับราคาขึ้นอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้จะขอเพิ่มดื้อๆซะอย่างงั้น แล้วถึงจะสัญญาว่าจะบริการให้ดีขึ้น

เหมือนกำลังบอกเราว่าถ้าจ่ายราคาเดิม ก็อย่าหวังการบริการแบบมืออาชีพเลย

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น ต้นทุนการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่ำลง

เวลาจะใช้บริการอะไร หลายคนจะเข้าไปที่หน้า Line@ หรือหน้า Fan Page ของร้านค้านั้นก่อน ใช้เวลาเพียงไม่ถึง1นาที เราอาจจะได้โปรโมชั่นร้านค้า ที่ราคาถูกกว่าหน้าป้ายเกือบ 50%

ผู้ใช้บริการแทบทุกรายจะหาข้อมูลสินค้าก่อนตัดสินใจ ในขณะที่ผู้ให้บริการก็มีโปรโมชั่นล่อตาล่อใจทาง facebook หรือ Line แทบทุกวัน

แต่แท็กซี่ไทย ดูราวกับพยายามทำสวนกระแสของตลาดในยุคปัจจุบัน

หมดยุคหรือยังที่แท็กซี่ต้องวนรถหาลูกค้า เพราะมันแปลความได้ว่า ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทุกขณะ โดยที่ยังไม่รู้อนาคตว่าจะมีรายได้หรือไม่

ฟังดูแล้วเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสุดๆเลยละ

บางคนอาจอ้างว่าต้นทุนของคนเราไม่เท่ากัน แต่ใครจะไปรู้ว่าผู้ประกอบการยุคใหม่เติบโตมาจากจุดไหน อาจไม่แตกต่างจากจุดที่คนขับแท็กซี่เป็นอยู่ก็ได้

หน่วยงานรัฐที่ดูแลควบคุมรถแท็กซี่ คงต้องปรับตัวไม่ใช่จะคอยแต่ควบคุม แต่ต้องหันมาช่วยแท็กซี่เขาพัฒนา และสนับสนุนให้การบริการของแท็กซี่ไทยทันสมัยตามกระแสของโลก และสามารถแข่งขันกับต่างชาติได้

พูดตามตรง คือ ทำคล้ายๆกับ Uber แต่ไม่หักหัวคิวจากคนขับแท็กซี่ หรืออาจหักในอัตราต่ำมาก เขาเรียกทฤษฎีนี้ว่า C&D (copy แล้ว develop)

เพราะแท็กซี่ไทยเป็นปัญหาใหญ่ของสังคม

ถ้าภาครัฐสนับสนุนงบประมาณช่วงแรกให้ 20-30 ล้านบาท/ปี คงจะมีเอกชนเก่งๆ มีความสามารถ กระโดดเข้ามาแย่งกันพัฒนาระบบให้แท็กซี่ไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลกเสียที

ลองคิดดูว่าถ้านักท่องเที่ยวไปเที่ยว bag pack ที่ไหนแล้วมีช่องทางการเรียกแท็กซี่ ที่สะดวก ปลอดภัย มีมาตรฐาน มันจะสร้างความประทับใจเพิ่มขึ้นอีกเท่าไร โดยเฉพาะเมืองร้อนๆแบบบ้านเรา

การลงทุนนี้มีคุณค่ามากกว่าแค่เพิ่มคุณภาพบริการให้กับคนไทยกันเอง แต่สร้างภาพลักษณ์และสื่อสารไปยังนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่า ประเทศไทยพร้อมแล้วที่จะเป็น Thailand 4.0

เป็นจุดหมายในฝันของนักท่องเที่ยวทุกคน


โดย จัฐสิพศ เลิศชัยประเสริฐ

ปล. ดูเพิ่มเติมวิธีแก้ปัญหารถสาธารณะได้ที่ลิงค์นี้: รถสาธารณะคือทูตชาวบ้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น