ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ Covid-19 ใครจะว่าเป็นฝีมือมนุษย์
หรือมีผู้บงการอยู่เบื้องหลังก็ตามนั้น สามารถสรุปเป็นประโยคสั้นๆ ได้ว่า มนุษย์ถูก(ธรรมชาติ)เอาคืน
ช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ธรรมชาติได้พยายามตักเตือนมนุษย์หลายต่อหลายครั้งนั้น
เชื่อกันว่าภัยคุกคามหรือที่บางคนเรียกว่าสงครามครั้งนี้ ซึ่งมนุษยชาติกำลังต่อสู้กับศัตรูที่มองไม่เห็น จะรุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี
ใครจะไปคิดว่า อุปกรณ์ข้างกายที่ต้องมีไว้เพื่อความอยู่รอดวันนี้ คือ
หน้ากากกับเจลล้างมือ
สมัยก่อนในรถยนต์จะไม่มีที่วางแก้วน้ำ เพราะแต่ก่อนคนกินน้ำถุง
ห้อยไว้กับประตูรถ
ปัจจุบัน วิวัฒนาการเป็นการดื่มน้ำจากแก้ว รถยนต์สมัยใหม่จึงต้องมีที่วางแก้วน้ำ
ส่วนในอนาคตอาจจะต้องเพิ่มที่วางขวดเจลแอลกอฮอล์ในรถยนต์ด้วย
ท่ามกลางความยากลำบากทางเศรษฐกิจ หากมองอีกด้านหนึ่งของสถานการณ์ก็ยังพอมีมุมบวกของมันให้เห็นอยู่บ้าง สรุปสั้นๆได้เป็น 4ส.
คือ สิ่งแวดล้อม สมาชิกครอบครัว สติ และ (ความ)สงบสุข
คือ สิ่งแวดล้อม สมาชิกครอบครัว สติ และ (ความ)สงบสุข
1. เป็นครั้งแรกของโลกที่มนุษย์พร้อมใจกันลดการใช้พลังงาน และลดการบริโภคเกินจำเป็น (Overconsumption) ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม การเดินทางโดยรถยนต์ หรือแม้แต่สายการบิน
ที่ประกาศหยุดให้บริการ 3 เดือน 6 เดือน ทำให้ราคาน้ำมันลดลงถูกที่สุดในรอบหลายสิบปี
หากใครมีความจำเป็นจะต้องเดินทางไปไหนมาไหน จะพบกับการจราจรในฝันที่ประหยัดเวลาการเดินทางได้มาก
ซึ่งในสถานการณ์ปกตินั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คนอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่จะได้พบเจอ
สิ่งเหล่านี้เมื่อรวมกันแล้ว
ส่งผลโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อมและสภาพบรรยากาศของธรรมชาติที่ดีขึ้นอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน
เป็นการคืนธรรมชาติให้สัตว์โลกในรอบหลายสิบปี
2. พวกเราได้กลับมาใช้ชีวิตอยู่กับสมาชิกครอบครัว ทำในสิ่งที่การดำเนินชีวิตในภาวะปกติไม่ค่อยได้ทำหรือไม่มีเวลาจะทำ
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ในภาวะปกติ จะมีการขอร้องให้มนุษย์ ซึ่งเป็นสัตว์สังคมหยุดนิ่งอยู่กับบ้าน อยู่กับครอบครัว โดยไม่ออกไปข้างนอกถ้าไม่จำเป็น
แต่หลังเกิดการระบาดของเชื้อโรคร้ายตัวนี้
ต่างคนต่างกลัว ไม่อยากไปไหนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ยิ่งมีคำสั่งให้ปิดศูนย์การค้าและสถานที่ที่เป็นแหล่งชุมนุม ยิ่งทำให้มนุษย์เกือบ 100%
ได้หยุดการเคลื่อนที่เป็นการชั่วคราว
ทำให้แต่ละคนมีเวลาจัดระเบียบตัวเอง จัดระเบียบบ้าน พัฒนาตัวเอง พร้อมหน้าพร้อมตากันกับสมาชิกในครอบครัว
ธุรกิจบางประเภทจึงได้รับอานิสงค์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ร้านขายต้นไม้ ธุรกิจเครื่องครัว
รายการโทรทัศน์ ค้าขายออนไลน์ เป็นต้น
3. เมื่อมนุษย์ทั่วโลกได้หยุดพัก ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ตั้งสติแล้วมองย้อนอดีต
คิดไปในอนาคต จะพบว่า ความแน่นอนที่สุด คือความไม่แน่นอน
ทั้งในเรื่องของอาชีพการงาน รายได้ การใช้ชีวิต การทำกิจกรรมต่างๆ
สามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ
การดำเนินชีวิตของมนุษย์หลังจากนี้คงจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อะไรที่เคยคิดว่าสำคัญ
อาจจะไม่สำคัญ อะไรที่ไม่เคยคิดถึง อาจจะกลายเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต
การใช้ชีวิตแบบวันต่อวันอาจมีความเสี่ยงสูง
การวางแผนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคตจะมีความสำคัญอย่างยิ่ง
4. ชาวโลกได้อยู่อย่างสงบสุขอีกครั้ง เพราะในรอบหลายปีที่ผ่านมา พวกเราได้อยู่ท่ามกลางภัยสงครามและก่อการร้ายทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ แต่ไวรัส Covid19 ทำให้โจรกลัวตาย
ผู้ก่อการร้ายISIS ถึงต้องสั่งระงับการโจมตีชั่วคราว เพื่อเว้นระยะห่างและป้องกันการรวมตัวกันในหมู่โจร ซึ่งอาจนำมาซึ่งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ ที่สำคัญเมื่อคนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน จึงไม่เป็นการฉลาดที่โจรจะสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายให้เกิดขึ้น
ถึงแม้จะมีการระงับการเดินทางเข้า-ออกประเทศของชาวต่างชาติ ทำให้เกิดความไม่สะดวกบ้างก็ตาม แต่ก็เพื่อความปลอดภัยของพลเมืองส่วนใหญ่ของแต่ละประเทศ เราได้เห็นความร่วมไม้ร่วมมือทางการแพทย์ในระดับรัฐบาลของแต่ละประเทศ เป็นโอกาสที่ผู้นำจะได้ผูกมิตรสัมพันธ์กับประเทศเป้าหมายในอนาคต และเมื่อเกิดวิกฤติเรายังมั่นใจได้ว่า คนส่วนใหญ่ยังพร้อมที่จะร่วมมือกันเพื่อให้ส่วนรวมก้าวต่อไปได้
หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านพ้นไป หลายคนทำนายว่า
การใช้ชีวิตของคนทั้งโลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
บ้างก็บอกว่าเทคโนโลยีจะยิ่งเร่งเข้ามามีบทบาทมากขึ้นต่อชีวิตมนุษย์
บ้างก็ว่าการพัฒนาในระบบสาธารณะสุขจะเป็นแบบก้าวกระโดด
หรือแม้แต่การดำเนินชีวิตของคนส่วนมากจะต้องเว้นระยะห่างเป็นกิจวัตร
แต่สุดท้าย ยังคงมีคำถามสำคัญที่ยังไม่มีใครมีคำตอบคือ
อะไรจะจบก่อนกันระหว่าง เชื้อร้ายไวรัส กับ เศรษฐกิจของชาวบ้าน



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น