วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2563

เคล็ดลับของเจ้าสัว

คุณเคยสงสัยใช่ไหม ทำไมเจ้าสัวถึงได้ร่ำรวยกว่าคนทั่วไป

วันนี้เราได้พบจดหมายฉบับหนึ่ง ที่เจ้าสัวทิ้งไว้ให้ลูกชายพร้อมกับทรัพย์สินพันล้าน ก่อนที่เจ้าสัวจะสิ้นลมหายใจอย่างไม่ทันตั้งตัว

ในจดหมายเขียนเคล็ดลับไว้อยู่ 3 ข้อ

เมื่อลูกชายเปิดอ่าน จึงพบเคล็ดลับสามข้อ

ข้อแรก เวลาเจ้าไปทำงาน อย่างให้โดนแดด

ข้อสอง เวลาเจ้ากินอาหาร ต้องกินให้อร่อย

ข้อสาม เวลาเจ้ากลับบ้าน ให้กลับดึกๆ

พอรู้ดังนั้นเขาก็ทำตามอย่างไม่บกพร่อง




จนกระทั่ง 20 ปีต่อมา มีคนไปพบว่า ลูกชายเจ้าสัวประสบชะตากรรม สิ้นเนื้อประดาตัว

เขาจึงลุกขึ้นอีกครั้ง เพื่อไปจุดธูปหาเตี่ย ต่อว่าอย่างน้อยใจในโชคชะตา

หนึ่งคืนหลังจากนั้น เตี่ยได้มาเข้าฝันลูกชาย แล้วบอกว่า

'อั้ยย่ะ เคล็ดลับที่อั๊วบอกลื้อไป ลื้อทำผิดทุกอย่าง ไอ้ชิหาย'

ข้อแรก เวลาไปทำงาน อย่าโดนแดด หมายถึง มึงต้องไปทำงานแต่เช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ไปให้ถึงก่อนลูกน้อง

ข้อสอง กินอาหารต้องให้อร่อย หมายถึง ไม่หิวอย่ากิน ให้มึงกินเฉพาะเวลาหิว เพราะตอนมึงหิว มึงกินอะไรก็อร่อยไปหมด

ข้อสาม กลับบ้านดึกๆ หมายถึง มึงต้องกลับบ้านทีหลังลูกน้อง ตรวจตราที่ทำงานให้เรียบร้อย ทุ่มเททำงานให้ลูกน้องมึงเห็นเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ให้มึงไปเที่ยวเล่นจนมืดค่ำแล้วค่อยกลับบ้าน

เตี่ยทิ้งท้ายก่อนจากไปว่า 'มึงนี่ควายแท้ๆ'

'The Revenge of Nature'

ธรรมชาติเอาคืน

ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ Covid-19 ใครจะว่าเป็นฝีมือมนุษย์ หรือมีผู้บงการอยู่เบื้องหลังก็ตามนั้น สามารถสรุปเป็นประโยคสั้นๆ ได้ว่า มนุษย์ถูก(ธรรมชาติ)เอาคืน





ช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ธรรมชาติได้พยายามตักเตือนมนุษย์หลายต่อหลายครั้งนั้น เชื่อกันว่าภัยคุกคามหรือที่บางคนเรียกว่าสงครามครั้งนี้ ซึ่งมนุษยชาติกำลังต่อสู้กับศัตรูที่มองไม่เห็น จะรุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี

ใครจะไปคิดว่า อุปกรณ์ข้างกายที่ต้องมีไว้เพื่อความอยู่รอดวันนี้ คือ หน้ากากกับเจลล้างมือ

สมัยก่อนในรถยนต์จะไม่มีที่วางแก้วน้ำ เพราะแต่ก่อนคนกินน้ำถุง ห้อยไว้กับประตูรถ

ปัจจุบัน วิวัฒนาการเป็นการดื่มน้ำจากแก้ว รถยนต์สมัยใหม่จึงต้องมีที่วางแก้วน้ำ ส่วนในอนาคตอาจจะต้องเพิ่มที่วางขวดเจลแอลกอฮอล์ในรถยนต์ด้วย

ท่ามกลางความยากลำบากทางเศรษฐกิจ หากมองอีกด้านหนึ่งของสถานการณ์ก็ยังพอมีมุมบวกของมันให้เห็นอยู่บ้าง สรุปสั้นๆได้เป็น 4ส.

คือ สิ่งแวดล้อม สมาชิกครอบครัว สติ และ (ความ)สงบสุข


1. เป็นครั้งแรกของโลกที่มนุษย์พร้อมใจกันลดการใช้พลังงาน และลดการบริโภคเกินจำเป็น (Overconsumption) ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม การเดินทางโดยรถยนต์ หรือแม้แต่สายการบิน ที่ประกาศหยุดให้บริการ 3 เดือน 6 เดือน ทำให้ราคาน้ำมันลดลงถูกที่สุดในรอบหลายสิบปี หากใครมีความจำเป็นจะต้องเดินทางไปไหนมาไหน จะพบกับการจราจรในฝันที่ประหยัดเวลาการเดินทางได้มาก ซึ่งในสถานการณ์ปกตินั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คนอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่จะได้พบเจอ 

สิ่งเหล่านี้เมื่อรวมกันแล้ว ส่งผลโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อมและสภาพบรรยากาศของธรรมชาติที่ดีขึ้นอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นการคืนธรรมชาติให้สัตว์โลกในรอบหลายสิบปี



2. พวกเราได้กลับมาใช้ชีวิตอยู่กับสมาชิกครอบครัว ทำในสิ่งที่การดำเนินชีวิตในภาวะปกติไม่ค่อยได้ทำหรือไม่มีเวลาจะทำ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ในภาวะปกติ จะมีการขอร้องให้มนุษย์ ซึ่งเป็นสัตว์สังคมหยุดนิ่งอยู่กับบ้าน อยู่กับครอบครัว โดยไม่ออกไปข้างนอกถ้าไม่จำเป็น 

แต่หลังเกิดการระบาดของเชื้อโรคร้ายตัวนี้ ต่างคนต่างกลัว ไม่อยากไปไหนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งมีคำสั่งให้ปิดศูนย์การค้าและสถานที่ที่เป็นแหล่งชุมนุม ยิ่งทำให้มนุษย์เกือบ 100% ได้หยุดการเคลื่อนที่เป็นการชั่วคราว 

ทำให้แต่ละคนมีเวลาจัดระเบียบตัวเอง จัดระเบียบบ้าน พัฒนาตัวเอง พร้อมหน้าพร้อมตากันกับสมาชิกในครอบครัว ธุรกิจบางประเภทจึงได้รับอานิสงค์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ร้านขายต้นไม้ ธุรกิจเครื่องครัว รายการโทรทัศน์ ค้าขายออนไลน์ เป็นต้น

3. เมื่อมนุษย์ทั่วโลกได้หยุดพัก ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ตั้งสติแล้วมองย้อนอดีต คิดไปในอนาคต จะพบว่า ความแน่นอนที่สุด คือความไม่แน่นอน ทั้งในเรื่องของอาชีพการงาน รายได้ การใช้ชีวิต การทำกิจกรรมต่างๆ สามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ 

การดำเนินชีวิตของมนุษย์หลังจากนี้คงจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อะไรที่เคยคิดว่าสำคัญ อาจจะไม่สำคัญ อะไรที่ไม่เคยคิดถึง อาจจะกลายเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต 

การใช้ชีวิตแบบวันต่อวันอาจมีความเสี่ยงสูง การวางแผนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคตจะมีความสำคัญอย่างยิ่ง

4. ชาวโลกได้อยู่อย่างสงบสุขอีกครั้ง เพราะในรอบหลายปีที่ผ่านมา พวกเราได้อยู่ท่ามกลางภัยสงครามและก่อการร้ายทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ แต่ไวรัส Covid19 ทำให้โจรกลัวตาย 

ผู้ก่อการร้ายISIS ถึงต้องสั่งระงับการโจมตีชั่วคราว เพื่อเว้นระยะห่างและป้องกันการรวมตัวกันในหมู่โจร ซึ่งอาจนำมาซึ่งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ ที่สำคัญเมื่อคนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน จึงไม่เป็นการฉลาดที่โจรจะสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายให้เกิดขึ้น

ถึงแม้จะมีการระงับการเดินทางเข้า-ออกประเทศของชาวต่างชาติ ทำให้เกิดความไม่สะดวกบ้างก็ตาม แต่ก็เพื่อความปลอดภัยของพลเมืองส่วนใหญ่ของแต่ละประเทศ เราได้เห็นความร่วมไม้ร่วมมือทางการแพทย์ในระดับรัฐบาลของแต่ละประเทศ เป็นโอกาสที่ผู้นำจะได้ผูกมิตรสัมพันธ์กับประเทศเป้าหมายในอนาคต และเมื่อเกิดวิกฤติเรายังมั่นใจได้ว่า คนส่วนใหญ่ยังพร้อมที่จะร่วมมือกันเพื่อให้ส่วนรวมก้าวต่อไปได้

หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านพ้นไป หลายคนทำนายว่า การใช้ชีวิตของคนทั้งโลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป บ้างก็บอกว่าเทคโนโลยีจะยิ่งเร่งเข้ามามีบทบาทมากขึ้นต่อชีวิตมนุษย์ บ้างก็ว่าการพัฒนาในระบบสาธารณะสุขจะเป็นแบบก้าวกระโดด หรือแม้แต่การดำเนินชีวิตของคนส่วนมากจะต้องเว้นระยะห่างเป็นกิจวัตร


แต่สุดท้าย ยังคงมีคำถามสำคัญที่ยังไม่มีใครมีคำตอบคือ อะไรจะจบก่อนกันระหว่าง เชื้อร้ายไวรัส กับ เศรษฐกิจของชาวบ้าน