คนไทยโชคดีที่มีในหลวง ร.๙ ที่ทรงมีวิสัยทัศน์ ให้ความสำคัญเรื่อง 'ดิน น้ำ การเกษตร' ทำให้คนในประเทศสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า 'ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว' เมื่องไทยเป็น 'อู่ข้าวอู่น้ำ' ถึงขั้นที่จะยกระดับให้ประเทศไทยเป็น 'ครัวโลก' (World Kitchen) สามารถป้อนอาหารให้กับประเทศต่างๆในโลกได้
ถือเป็นความโชคดีของคนไทยอีกเช่นกันที่ในหลวงทรงมีดำริว่า อุตสาหกรรม นั้นมาจากคำว่า 'อุตส่า-หากรรม' โครงการตามพระราชดำริจำนวนมากจึงเน้นที่จะพัฒนาเกษตรกรรม ช่วยให้เกษตรกรไทยมีอาชีพมั่นคง ทำมาหาเลี้ยงตนได้ และทรัพยากรธรรมชาติมีความยั่งยืน
ทั้งเรื่องฝนหลวงและชลประทาน (Water supply) เรื่องปรับปรุงดิน พัฒนาพันธุ์พืชและแปรรูปสินค้าเกษตร (R&D) เรื่องการบำบัดน้ำเสีย (Innovation & CSR) เรื่องการเกษตรบูรณาการ (Holistic approach) ฯลฯ
ผู้คนจึงละทิ้งอาชีพการเกษตร เงินที่หาได้รัฐบาลก็ใช้จ่ายประชานิยมฟุ้งเฟ้อ แจกเงินคนจนฟุ่มเฟือย ผ่านมาไม่กี่สิบปี ปัจจุบันราคาน้ำมันตกต่ำ คนในประเทศอดอยากไม่มีจะกิน ข้าวยากหมากแพง ขาดแคลนสาธารณูปโภค คนรุ่นใหม่ก็ขาดภูมิปัญญาทำการเกษตร เกิดวิกฤติภายในประเทศวุ่นวายไปหมด
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า แม้นประเทศไทยจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ผู้คนตกงาน ย่ำแย่สาหัสเพียงใด แต่คนไทยทุกคนก็ยังโชคดี ไม่มีอดตาย เพราะแผ่นดินไทยอุดมสมบูรณ์ 'มีข้าวอยู่ในนา มีปลาอยู่ในน้ำ'
เพื่อให้ความมั่นคงทางอาหารดำรงอยู่คู่ประเทศไทยต่อไป คนไทยต้องไม่ละทิ้งอาชีพทำการเกษตร แต่ต้องต่อยอดภูมิปัญญาดั้งเดิม
จะทำอย่างนั้นได้ ต้องให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ไม่คิดละทิ้งบ้านในชนบท แล้วเข้าไปหางานในเมืองหลวง ด้วยเหตุผลเดิมๆที่ว่า อาชีพเกษตรกรไม่อาจสร้างความมั่งคั่งและความมั่นคงให้กับตนเองและครอบครัวได้
ดังนั้น เราคนไทยต้องช่วยกันหาทางทำให้เกษตรกรรมเป็นงานที่มีเกียรติ มีรายได้ดี มีความภาคภูมิใจ จูงใจให้คนในสาขาอาชีพอื่น หันมาทำการเกษตรเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับประเทศในระยะยาว (จะได้คุยกันต่อไปในบทความหน้าๆ)
จริงอยู่ที่การทำการเกษตรมีความไม่แน่นอนสูง เพราะผลผลิตจะขึ้นอยู่กับฤดูกาล ลม ฟ้า อากาศ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของมนุษย์นั้นมากมายเหลือเกิน อาจเป็นเพราะเหตุผลนี้ที่ทำให้คนในชนบทมักจะพึ่งพิงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บูชาและศรัทธาสิ่งที่เหนือธรรมชาติ มากกว่าคนในเมืองที่ไม่ได้ทำการเกษตร
แม้ฟังดูเป็นเรื่องยาก แต่คงไม่เกินความสามารถหากเราหลายล้านคนร่วมมือกัน เพราะในหลวงทรงทำได้สำเร็จเป็นแบบอย่างแล้ว ทำให้คนเราสามารถบริหารจัดการกับทรัพยากรธรรมชาติ ที่ดูเสมือนว่าจะอยู่เหนือการควบคุม เพื่อนำมันมาใช้ประโยชน์ในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็น ดิน ฝน น้ำ ชลประทาน
แต่ 'งานยังไม่เสร็จ' ต้องทำกันต่อไป ดีกว่าไปฝากความหวังไว้กับสิ่งที่คุณก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร








