วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2560

5 รางวัลชีวิตของคนไทย ใครๆก็รู้

1.   คนไทยโชคดีที่ทานอาหารหลากหลายรส
วันก่อนมีโอกาสไปนั่งทานพิซซ่า 1 แถม 1 ก็ทำให้นึกถึงอดีตสมัยที่อยู่อเมริกา เวลาทานพิซซ่าแทบจะไม่มีฝรั่งคนไหนที่ใส่ซอสมะเขือเทศหรือเครื่องปรุงใดๆ ทุกคนจะทานแบบต้นตำรับ (Original) จะมีก็แต่เราคนไทย ต้องถามหาซอสมะเขือเทศมาทานกับพิซซ่า เพื่อเพิ่มรสชาตของอาหาร ให้รางวัลชีวิตที่ได้ทานอาหารอร่อย เพื่อนชาวอเมริกันก็สงสัย หาว่าเราพิสดาร เพราะเขาไม่เคยเจอใครทานพิซซ่าใส่ซอสมะเขือเทศมาก่อน เราก็ได้โอกาสชักชวนให้ฝรั่งรู้จักวัฒนธรรมไทยเสียเลย ให้เขาลองกินพิซซ่าใส่ซอสมะเขือเทศ แต่เขารีบปฏิเสธทันที นี่แหละคือต้นทุนแฝงที่ทำให้พิซซ่าไทยแพงกว่าชาติใดในโลก จริงไหม...

2.   คนไทยโชคดีที่ใช้ช้อนทานข้าว
หลายคนคงสงสัยว่าใช้ช้อนทานข้าวมันโชคดียังไง ในอดีตสมัยที่อยู่ต่างประเทศ ได้มีโอกาสคลุกคลีกับฝรั่งและทำงานในร้านอาหารไทย ฝรั่งที่ใช้ส้อมและมีดเป็นหลัก เขาจะไม่เคยคิดจะใช้ช้อน แต่ใช้ส้อมทานข้าว ลองนึกสภาพดูว่าถ้าเราใช้ส้อมทานข้าว ส้อมที่มีช่องพอดีให้เมล็ดข้าวหล่นลง แล้วเมื่อไรจะทานเสร็จ นี่แหละคือภูมิปัญญาของใครของมัน ไม่มีใครฉลาดกว่าใครเสมอไป จริงไหม...

3.   คนไทยโชคดีที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์
ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ยังเป็นสำนวนที่ใช้ได้ดีเสมอสำหรับประเทศไทย นอกจากคนไทยจะได้ทานอาหารที่มีหลากรสชาติแล้ว เรายังมีอาหารหลายประเภทให้เลือกทาน โดยเฉพาะร้านค้าข้างทาง (Street food) ที่ไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหน คนไทยก็ไม่เคยต้องกลัวความหิวโหย ยิ่งตามแหล่งท่องเที่ยวหรือถนนคนเดิน Street food จะมีมนต์เสน่ห์ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ออกไปจับจ่ายใช้เงินได้เป็นอย่างดี นี่แหละคือเรื่องที่ คสช.ไม่ควรจัดระเบียบให้มันเนี้ยบและสุดโต่งเกินไป จริงไหม...

4.   คนไทยโชคดีที่เกิดในประเทศที่มีแสงแดดอบอุ่น
ประการแรกเลยคือเราประหยัดเงินจากการซื้อเครื่องอบผ้า เพราะเราใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้ตลอดทั้งปี พอเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น เราก็เริ่มผลิตไฟฟ้าจากแสงแดดได้เพิ่มขึ้น ในขณะะที่ต้นทุนถูกลง ที่โชคดีไปกว่านั้นคือ ประเทศไทยมีทะเลที่สวยงาม หาดทรายสีขาว เมื่อเจอกับแสงแดดที่อบอุ่น (Sea Sand Sun) ชาวต่างชาติจึงหลงใหลทะเลเมืองไทยอย่างมาก นี่แหละคือแหล่งทำเงินจากการท่องเที่ยว ที่ต้องพัฒนาและรักษาไว้ จริงไหม...

5.   คนไทยโชคดีที่มีวัฒนธรรมครอบครัว
ลักษณะสังคมของชาวตะวันตก มักจะเป็นแบบต่างคนต่างอยู่ นานทีปีหนจะได้พบปะครอบครัว ในขณะที่สังคมไทยจะมีความเป็นครอบครัว ช่วยเหลือเกื้อกูล พึ่งพาอาศัย ไปมาหาสู่กันทุกสัปดาห์ทุกเดือน วัฒนธรรมครอบครัวที่เป็นเอกลักษณ์ของสังคม แสดงออกมาในรูปแบบความมีน้ำใจของคนไทย ซึ่งเป็นที่กล่าวขานของคนทั่วโลก นี่แหละคือต้นทุนชีวิตของคนไทย ที่ได้เปรียบชาวโลก จริงไหม...

โดย จัฐสิพศ เลิศชัยประเสริฐ

วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560

Social Media กับเบื้องหลัง Nokia 3310

ใครจะกล้าปฏิเสธว่า Social Media มีอิทธิพลอย่างมากกับชีวิตคนไทย

ใครจะไปคิดว่าคนเฒ่าคนแก่จะติดแชท ติดโซเชียล ทั่วทั้งเมือง

ใครจะไปรู้ว่าสื่อทีวีจำนวนมาก นำเสนอโดยเอาข้อมูลมาจาก Social media แทนการสืบเสาะหาข่าวของนักข่าวดังเช่นอดีต




ถ้าเป็นในอดีต เรื่องคุณลุง 'ป๋า' ที่เคาะหน้าเด็กเสิร์ฟ สังคมอาจจะไม่รู้เรื่องเลยเสียด้วยซ้ำ

เช่นเดียวกับ การใช้งบประมาณดูงาน แบบเที่ยวเน้นๆ ที่กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วของหน่วยงานต่างๆ

แต่เพราะผลลัพธ์จาก Social media ทำให้ทั้ง 2 เรื่อง เกิดเป็นกระแสอันโด่งดังในสังคมยุคปัจจุบัน

โลกออนไลน์ นอกจากจะเป็นช่องทางทำเงินที่ดีของหลายคนในปัจุบันแล้ว

โลกออนไลน์ ยังเป็นช่องทางที่ทำให้เราติดต่อสื่อสารข้ามทวีปกันได้สะดวก รวดเร็ว ทันเหตุการณ์

นั่นหมายความว่า ไม่ว่าคุณจะทำอะไรอยู่ที่ช่องแคบไหนบนโลก ถ้าคุณใช้ Social media คนในประเทศจะรู้ความเคลื่อนไหวของคุณได้ทันที ทุกฝีก้าว

และถ้ายิ่งเป็นเรื่องที่เสื่อมเสีย มันจะแพร่กระจายไปได้รวดเร็วมาก

เพราะมันคือสื่อ ที่สังคมชอบเสพ

สิ่งนี้แหละที่ถือได้ว่าเป็นข้อดีที่สุดข้อหนึ่งของ Social media

เพราะมันจะทำให้คนในสังคม ต้องคิดทบทวน ยับยั้งชั่งใจว่า สิ่งที่จะตัดสินใจลงมือทำไปนั้น มันจะส่งผลดีหรือร้าย ต่อชีวิตทั้งชีวิตในอนาคต

เพราะถ้าหากเป็นเรื่องเสียหาย ที่แพร่กระจายไปใน Social media แล้วละก็

ไม่ใช่เพียงแค่ตัวคุณ แต่ผลกระทบอาจจะตกไปสู่องค์กร หรือครอบครัวของคุณได้

หวังว่านี่คงไม่ใช่เหตุผลเบื้องหลังของ Nokia 3310 ที่กำลังย้อนกลับมาเป็นกระแสนิยมอีกครั้ง จริงไหม...

โดย จัฐสิพศ เลิศชัยประเสริฐ